28 ธันวาคม 2550
ขอบคุณ คุณแอ๊ว และบริษัทแปซิฟิก เวิลด์ไวดื เอ็กซ์เพรส ครับ
25 ธันวาคม 2550
23 ธันวาคม 2550
Travel in Korea
สวัสดีครับ วันนี้แหวกแนวหน่อย คือพวก พี่ ๆที่จะรับรูป ผมจะฦากพี่บัวบาง ไป คื่อจะ ไรท์ ภาพส่วนเที่ถ่ายมั่ว ๆแล้วพี่พี่ เล
ือกเอาเอง แต่ผมฌศร้าคือ ภาพจากกล้องพี่สดศรี ผมก็ไม่มีภาพ โทรไปบอกแล้ว ตอนไปดที่ยว สวนสนุก ซำซุง Sumsung Neverland ผมจะเก็บไว้ที่ http://skongngoen.spaces.live.com และ http://krooning.blogspot.com
07 ธันวาคม 2550
IN
In “ใน” ใช้กับช่วงเวลาของวัน ชื่อเดือน ปี และฤดูกาล ดังนี้
· ช่วงเวลาของวัน เช่น
In the morning, in the evening, in the afternoon.
· ชื่อเดือน เช่น
In January, in March, in December.
· ปี พ.ศ. หรือ ค.ศ. เช่น
In 1990, in 1975, in the year 2539
· ฤดูกาล เช่น
In winter,in summer, in summer, in rainy season. เช่น
· ช่วงเวลาของวัน เช่น
In the morning, in the evening, in the afternoon.
· ชื่อเดือน เช่น
In January, in March, in December.
· ปี พ.ศ. หรือ ค.ศ. เช่น
In 1990, in 1975, in the year 2539
· ฤดูกาล เช่น
In winter,in summer, in summer, in rainy season. เช่น
บน ON
On ใช้กับชื่อวัน ชื่อเดือนที่มีวันที่ และวันสำคัญต่าง ๆ ดังนี้
· ชื่อวัน เช่น
On Monday, on Tuesday, on Thursday
· ชื่อเดือนที่มีวันที่ เช่น
On July 12, on November 30, on March 24
· วันสำคัญต่าง ๆ เช่นOn New Year’s day, on Children’s Day, on Christmas Day
· ชื่อวัน เช่น
On Monday, on Tuesday, on Thursday
· ชื่อเดือนที่มีวันที่ เช่น
On July 12, on November 30, on March 24
· วันสำคัญต่าง ๆ เช่นOn New Year’s day, on Children’s Day, on Christmas Day
At
At
At ใช้บอกเวลาที่จุดใดจุดหนึ่งโดยเฉพาะ ดังนี้
*a clock time เช่น
at 6 o’clock, at 9 a.m., at four o’clock.
At ใช้บอกเวลาที่จุดใดจุดหนึ่งโดยเฉพาะ ดังนี้
*a clock time เช่น
at 6 o’clock, at 9 a.m., at four o’clock.
Preposition
Preposition คือ คำที่ใช้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างคำต่าง ๆ ในประโยค เพื่อให้มีใจความเกี่ยวเนื่องกัน prepositions อาจจะเป็นคำเพียงคำเดียว เช่น in, on, at, with…etc. หรืออาจจะเป็นสองคำหรือมากกว่า เช่น away from, in front of, at the back of …etc.
กรรมตรง กรรมรอง ภาษาอังกฤษ
Objects (กรรม) แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. Direct Object คือ กรรมตรง หมายถึง ผู้ที่ถูกกระทำโดยตรง
2. Indirect Object คือ กรรมรอง หมายถึง ผู้ที่รับผลแห่งการกระทำ
ในประโยคที่มีกรรม 2 ตัว สามารถเขียนได้ 2 โครงสร้าง คือ
โครงสร้างที่ 1 Subject + Verb + Indirect Object + Direct Object
ตัวอย่าง He gave me a ring.
โครงสร้างที่ 2 Subject + Verb + Direct Object + + Indirect Object.
ตัวอย่าง He gave a ring to me.
ข้อสังเกต กรรมรอง จะเป็นคน หรือสัตว์เท่านั้น ไม่เป็นสิ่งของ
กรรมตรง จะเป็นสิ่งของที่ถูกให้ ถูกส่ง ถูกขาย
1. Direct Object คือ กรรมตรง หมายถึง ผู้ที่ถูกกระทำโดยตรง
2. Indirect Object คือ กรรมรอง หมายถึง ผู้ที่รับผลแห่งการกระทำ
ในประโยคที่มีกรรม 2 ตัว สามารถเขียนได้ 2 โครงสร้าง คือ
โครงสร้างที่ 1 Subject + Verb + Indirect Object + Direct Object
ตัวอย่าง He gave me a ring.
โครงสร้างที่ 2 Subject + Verb + Direct Object + + Indirect Object.
ตัวอย่าง He gave a ring to me.
ข้อสังเกต กรรมรอง จะเป็นคน หรือสัตว์เท่านั้น ไม่เป็นสิ่งของ
กรรมตรง จะเป็นสิ่งของที่ถูกให้ ถูกส่ง ถูกขาย
05 ธันวาคม 2550
เห็นว่ามีประโยชน์
การบอกทิศทาง (Saying about directions)
การถามทาง (Asking the way ) ให้ถามดังนี้
-Excuse me, can you tell me the way to the ……………..?
ขอโทษครับ / คะ กรุณาบอกทางไป...............
-Excuse me, how do I get to the …………..?
ขอโทษครับ /คะ จะไป.................ได้อย่างไร ?
- Excuse me.Can you tell me how to get to……….
- Excuse me, can you tell me how I can get to .........
- Excuse me, can you tell me the way to…………
ถ้าไม่สามารถบอกทิศทางได้ ให้ใช้สำนวนต่อไปนี้ตอบ
1. I'm sorry . I don't know
2. I'm sorry . I have no idea
3. I'm sorry . I am a stranger here myself.
4. I'm sorry . I'm afraid I can't.
5. I'm sorry . I'm a new comer here
ปัญหาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนไทย
ความเห็นส่วนตัวนะ
1.คือสิ่งแวดล้อมไม่ให้ คือพูดแต่ภาษาถิ่น ไม่รู้จะพูดกับใคร
2.อันนี้สำคัญมากสุดเลย ไม่รู้คำศัพท์ สุด ๆ
3.ครูก็ไม่ค่อยรู้จริง ตัวเองยังไม่รอดเลย
4.ความยากจน เกี่ยวหรือเปล่านะ ไม่มีเงินซื้อ talking dict
5.ไม่มีความอดทน
6.มีแต่คนเอาเปรียบผู้อื่น พอรู้มากกว่าเชา ก็ไม่อยากรู้มากกว่า
วันหน้าอาจหาได้อีก
1.คือสิ่งแวดล้อมไม่ให้ คือพูดแต่ภาษาถิ่น ไม่รู้จะพูดกับใคร
2.อันนี้สำคัญมากสุดเลย ไม่รู้คำศัพท์ สุด ๆ
3.ครูก็ไม่ค่อยรู้จริง ตัวเองยังไม่รอดเลย
4.ความยากจน เกี่ยวหรือเปล่านะ ไม่มีเงินซื้อ talking dict
5.ไม่มีความอดทน
6.มีแต่คนเอาเปรียบผู้อื่น พอรู้มากกว่าเชา ก็ไม่อยากรู้มากกว่า
วันหน้าอาจหาได้อีก
ปัญหาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนไทย
ความเห็นส่วนตัวนะ
1.คือสิ่งแวดล้อมไม่ให้ คือพูดแต่ภาษาถิ่น ไม่รู้จะพูดกับใคร
2.อันนี้สำคัญมากสุดเลย ไม่รู้คำศัพท์ สุด ๆ
3.ครูก็ไม่ค่อยรู้จริง ตัวเองยังไม่รอดเลย
4.ความยากจน เกี่ยวหรือเปล่านะ ไม่มีเงินซื้อ talking dict
5.ไม่มีความอดทน
6.มีแต่คนเอาเปรียบผู้อื่น พอรู้มากกว่าเชา ก็ไม่อยากรู้มากกว่า
วันหน้าอาจหาได้อีก
1.คือสิ่งแวดล้อมไม่ให้ คือพูดแต่ภาษาถิ่น ไม่รู้จะพูดกับใคร
2.อันนี้สำคัญมากสุดเลย ไม่รู้คำศัพท์ สุด ๆ
3.ครูก็ไม่ค่อยรู้จริง ตัวเองยังไม่รอดเลย
4.ความยากจน เกี่ยวหรือเปล่านะ ไม่มีเงินซื้อ talking dict
5.ไม่มีความอดทน
6.มีแต่คนเอาเปรียบผู้อื่น พอรู้มากกว่าเชา ก็ไม่อยากรู้มากกว่า
วันหน้าอาจหาได้อีก
ขอให้พ่อหลวงของคนไทยทั้งชาติ สุขภาพแข็งแรงครับ
ท่านทรงเหนื่อยพระวรกายมากแล้ว ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ
ด้วยเกล้าด้ยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
ครอบครัว คงเงิน
ด้วยเกล้าด้ยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
ครอบครัว คงเงิน
จะบอกว่า 5 ธันวาคมรักพ่อที่สุดเลย
รักพ่อนะ ไม่มีคำพูดใด นอกจากให้พ่อดำเนินชีวิต ตามทางที่เลือกและมีความสุข เบอร์ 019878848 นะพ่อ
ปัญหาการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษสำหรับครูไทย
คนทั่วไปที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน วิชานี้ ส่วนใหญ่ไม่ทราบถึงปัญหา จะทราบก็ตอนเวลาเอาภาษาไปติดต่อกับชาวต่างชาติแล้ว หรือไม่ก็แก้ที่ ดั้นด้นไปหาสามีหรือภรรยา เป็นชาวต่างชาติกันไปเลย เริ่มกันเลย
02 ธันวาคม 2550
ดีวีดี 5 ทำไมชอบทำขายกันจัง
ลดต้นทุน แต่คุณภาพ ของเครื่อง ใช้ไม่หมด ไม่น่าเก็บ ชอบ Transformer เป็น ดี9 เหลือ 275 บาท
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
Last lecture อยากสอนอะไรในเล็คเชอร์สุดท้าย (ก่อนเสียชีวิต)
ศ. แรนดี้ เพาช์ ศาตราจารย์ด้าน Computer Science
บรรยายที่มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon สหรัฐอเมริกา หลังจากที่ทราบว่าเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย
song
http://www.youtube.com/watch?v=7vY1peG8gHQ
Examination:pre-test,post-test แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน
นักเรียนช่วงชั้นที่ 3 ทุกคนต้องใส่รหัสเพื่อเปิดข้อสอบแต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกันและcrop คะแนนที่ได้ส่งทาง e-mail แล้ว printมาส่งด้วยครับ
ที่อยู่ข้อสอบ คลิกที่นี่สำหรับโหลด
Manager Online - ต่างประเทศ
Read,please. อ่าน รบกวน กรอกแสดงความคิดเห็น หลังได้รูปภาพ งาน การบ้าน
- เพราะเมื่อท่านได้รับข้อมูลจะลบครับ
- วิธีการ แสดงความเห็นครับ
- 1.คลิก แสดงความเห็น
- 2.พบกรอบ กรอกข้อความที่ต้องการ
- 3.คลิก ชื่อเล่น แต่กรุณาใสชื่อจริงครับ นามสกุลไส่หรือไม่ก็ได้
- 5.คลิก เผยแพร่บทความ
- 4.รอขีด แสดงจนแล้วเสร็จ ครับ
ปรัชญาการวิจัย
คเวสนา ปรมา วิชชา
การวิจัยนำมาซึ่งยอดแห่งความรู้
RESEARCH LEADS TO SUMMIT OF KNOWLEDGE
การวิจัยตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า Research เกิดจากคำ 2 คำมารวมกัน คือคำว่า RE+SEARCH จากรากศัพท์เดิมว่า การค้นหาซ้ำแล้วซ้ำอีกให้เกิดความมั่นใจ นอกจากนี้นักจิตวิทยาด้านการวิจัย ออกแบบแนวคิดอธิบายค่า “Research” โดยแยกเป็นอักษรที่มาจากความหมายจากที่ประชุม Pan Pacific Socience Congress ในปี ค.ศ. 1961 ณ. สหรัฐอเมริกา ได้แยกอธิบายความหมายไว้ดังนี้
R = ecruitment & Relationship หมายถึง การฝึกตนให้มีความรู้ รวมทั้งรวบรวมผู้ที่มีความรู้เพื่อปฏิบัติงานรวมกัน ติดต่อสัมพันธ์และประสานงานกัน
E = Education & Efficency หมายถึง ผู้วิจัยจะต้องมีการศึกษา มีความรู้และสมรรถภาพสูงในการวิจัย
S = Sciences & Stimulation หมายถึง เป็นศาสตร์ที่ต้องมีการพิสูจน์ค้นคว้า เพื่อหาความจริง และผู้วิจัยต้องมีความกระตุ้นในด้านความคิดริเริ่ม กระตือรือร้นที่จะทำวิจัย
E = Evaluation & Enviroment หมายถึง รู้จักประเมินผลว่ามีประโยชน์สมควรจะทำต่อไปหรือไม่ และต้องรู้จักใช้เครื่องมือต่างๆในการวิจัย
A = Aim & Attitude หมายถึง มีจุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายที่แน่นอน และมีทัศนคติที่ดีต่อการติดตามผลการวิจัย
R = Result หมายถึง ผลการวิจัยที่ได้มาเป็นผลอย่างไรก็ตามจะต้องยอมรับผลการวิจัยนั้นอย่างดุษฎี และเป็นผลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าอย่างมีระบบ
C = Curiosity หมายถึง ผู้วิจัยจะต้องมีความรู้อยากรู้อยากเห็น มีความสนใจและขวนขวายในการวิจัยอยู่ตลอดเวลา
H = Horizon หมายถึงว่า เมื่อผลการวิจัยปรากฏออกมาแล้วย่อมทำให้ทราบและเข้าใจในปัญหาเหล่านั้นได้เหมือนกับการเกิดแสงสว่างขึ้น แต่ถ้ายังไม่เกิดแสงสว่าง ผู้วิจัยจะต้องดำเนินต่อไป จนกว่าจะพบแสงสว่าง ในทางสังคมแสงสว่างหมายถึง ผลการวิจัยก่อให้เกิดสุขแก่สังคม (อารมณ์ สนานภู่ : 2545.)
การวิจัยนำมาซึ่งยอดแห่งความรู้
RESEARCH LEADS TO SUMMIT OF KNOWLEDGE
การวิจัยตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า Research เกิดจากคำ 2 คำมารวมกัน คือคำว่า RE+SEARCH จากรากศัพท์เดิมว่า การค้นหาซ้ำแล้วซ้ำอีกให้เกิดความมั่นใจ นอกจากนี้นักจิตวิทยาด้านการวิจัย ออกแบบแนวคิดอธิบายค่า “Research” โดยแยกเป็นอักษรที่มาจากความหมายจากที่ประชุม Pan Pacific Socience Congress ในปี ค.ศ. 1961 ณ. สหรัฐอเมริกา ได้แยกอธิบายความหมายไว้ดังนี้
R = ecruitment & Relationship หมายถึง การฝึกตนให้มีความรู้ รวมทั้งรวบรวมผู้ที่มีความรู้เพื่อปฏิบัติงานรวมกัน ติดต่อสัมพันธ์และประสานงานกัน
E = Education & Efficency หมายถึง ผู้วิจัยจะต้องมีการศึกษา มีความรู้และสมรรถภาพสูงในการวิจัย
S = Sciences & Stimulation หมายถึง เป็นศาสตร์ที่ต้องมีการพิสูจน์ค้นคว้า เพื่อหาความจริง และผู้วิจัยต้องมีความกระตุ้นในด้านความคิดริเริ่ม กระตือรือร้นที่จะทำวิจัย
E = Evaluation & Enviroment หมายถึง รู้จักประเมินผลว่ามีประโยชน์สมควรจะทำต่อไปหรือไม่ และต้องรู้จักใช้เครื่องมือต่างๆในการวิจัย
A = Aim & Attitude หมายถึง มีจุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายที่แน่นอน และมีทัศนคติที่ดีต่อการติดตามผลการวิจัย
R = Result หมายถึง ผลการวิจัยที่ได้มาเป็นผลอย่างไรก็ตามจะต้องยอมรับผลการวิจัยนั้นอย่างดุษฎี และเป็นผลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าอย่างมีระบบ
C = Curiosity หมายถึง ผู้วิจัยจะต้องมีความรู้อยากรู้อยากเห็น มีความสนใจและขวนขวายในการวิจัยอยู่ตลอดเวลา
H = Horizon หมายถึงว่า เมื่อผลการวิจัยปรากฏออกมาแล้วย่อมทำให้ทราบและเข้าใจในปัญหาเหล่านั้นได้เหมือนกับการเกิดแสงสว่างขึ้น แต่ถ้ายังไม่เกิดแสงสว่าง ผู้วิจัยจะต้องดำเนินต่อไป จนกว่าจะพบแสงสว่าง ในทางสังคมแสงสว่างหมายถึง ผลการวิจัยก่อให้เกิดสุขแก่สังคม (อารมณ์ สนานภู่ : 2545.)