07 ธันวาคม 2550

IN

In “ใน” ใช้กับช่วงเวลาของวัน ชื่อเดือน ปี และฤดูกาล ดังนี้
· ช่วงเวลาของวัน เช่น
In the morning, in the evening, in the afternoon.
· ชื่อเดือน เช่น
In January, in March, in December.
· ปี พ.ศ. หรือ ค.ศ. เช่น
In 1990, in 1975, in the year 2539
· ฤดูกาล เช่น
In winter,in summer, in summer, in rainy season. เช่น

บน ON

On ใช้กับชื่อวัน ชื่อเดือนที่มีวันที่ และวันสำคัญต่าง ๆ ดังนี้
· ชื่อวัน เช่น
On Monday, on Tuesday, on Thursday
· ชื่อเดือนที่มีวันที่ เช่น
On July 12, on November 30, on March 24
· วันสำคัญต่าง ๆ เช่นOn New Year’s day, on Children’s Day, on Christmas Day

At

At
At ใช้บอกเวลาที่จุดใดจุดหนึ่งโดยเฉพาะ ดังนี้
*a clock time เช่น
at 6 o’clock, at 9 a.m., at four o’clock.

Preposition

Preposition คือ คำที่ใช้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างคำต่าง ๆ ในประโยค เพื่อให้มีใจความเกี่ยวเนื่องกัน prepositions อาจจะเป็นคำเพียงคำเดียว เช่น in, on, at, with…etc. หรืออาจจะเป็นสองคำหรือมากกว่า เช่น away from, in front of, at the back of …etc.

กรรมตรง กรรมรอง ภาษาอังกฤษ

Objects (กรรม) แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. Direct Object คือ กรรมตรง หมายถึง ผู้ที่ถูกกระทำโดยตรง
2. Indirect Object คือ กรรมรอง หมายถึง ผู้ที่รับผลแห่งการกระทำ
ในประโยคที่มีกรรม 2 ตัว สามารถเขียนได้ 2 โครงสร้าง คือ
โครงสร้างที่ 1 Subject + Verb + Indirect Object + Direct Object
ตัวอย่าง He gave me a ring.
โครงสร้างที่ 2 Subject + Verb + Direct Object + + Indirect Object.
ตัวอย่าง He gave a ring to me.
ข้อสังเกต กรรมรอง จะเป็นคน หรือสัตว์เท่านั้น ไม่เป็นสิ่งของ
กรรมตรง จะเป็นสิ่งของที่ถูกให้ ถูกส่ง ถูกขาย

Last lecture อยากสอนอะไรในเล็คเชอร์สุดท้าย (ก่อนเสียชีวิต)

ศ. แรนดี้ เพาช์ ศาตราจารย์ด้าน Computer Science บรรยายที่มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon สหรัฐอเมริกา หลังจากที่ทราบว่าเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย

song

http://www.youtube.com/watch?v=7vY1peG8gHQ

Examination:pre-test,post-test แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน

นักเรียนช่วงชั้นที่ 3 ทุกคนต้องใส่รหัสเพื่อเปิดข้อสอบแต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกันและcrop คะแนนที่ได้ส่งทาง e-mail แล้ว printมาส่งด้วยครับ ที่อยู่ข้อสอบ คลิกที่นี่สำหรับโหลด

Manager Online - ต่างประเทศ

Read,please. อ่าน รบกวน กรอกแสดงความคิดเห็น หลังได้รูปภาพ งาน การบ้าน

  • เพราะเมื่อท่านได้รับข้อมูลจะลบครับ
  • วิธีการ แสดงความเห็นครับ
  • 1.คลิก แสดงความเห็น
  • 2.พบกรอบ กรอกข้อความที่ต้องการ
  • 3.คลิก ชื่อเล่น แต่กรุณาใสชื่อจริงครับ นามสกุลไส่หรือไม่ก็ได้
  • 5.คลิก เผยแพร่บทความ
  • 4.รอขีด แสดงจนแล้วเสร็จ ครับ

ปรัชญาการวิจัย

คเวสนา ปรมา วิชชา
การวิจัยนำมาซึ่งยอดแห่งความรู้
RESEARCH LEADS TO SUMMIT OF KNOWLEDGE
การวิจัยตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า Research เกิดจากคำ 2 คำมารวมกัน คือคำว่า RE+SEARCH จากรากศัพท์เดิมว่า การค้นหาซ้ำแล้วซ้ำอีกให้เกิดความมั่นใจ นอกจากนี้นักจิตวิทยาด้านการวิจัย ออกแบบแนวคิดอธิบายค่า “Research” โดยแยกเป็นอักษรที่มาจากความหมายจากที่ประชุม Pan Pacific Socience Congress ในปี ค.ศ. 1961 ณ. สหรัฐอเมริกา ได้แยกอธิบายความหมายไว้ดังนี้
R = ecruitment & Relationship หมายถึง การฝึกตนให้มีความรู้ รวมทั้งรวบรวมผู้ที่มีความรู้เพื่อปฏิบัติงานรวมกัน ติดต่อสัมพันธ์และประสานงานกัน
E = Education & Efficency หมายถึง ผู้วิจัยจะต้องมีการศึกษา มีความรู้และสมรรถภาพสูงในการวิจัย
S = Sciences & Stimulation หมายถึง เป็นศาสตร์ที่ต้องมีการพิสูจน์ค้นคว้า เพื่อหาความจริง และผู้วิจัยต้องมีความกระตุ้นในด้านความคิดริเริ่ม กระตือรือร้นที่จะทำวิจัย
E = Evaluation & Enviroment หมายถึง รู้จักประเมินผลว่ามีประโยชน์สมควรจะทำต่อไปหรือไม่ และต้องรู้จักใช้เครื่องมือต่างๆในการวิจัย
A = Aim & Attitude หมายถึง มีจุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายที่แน่นอน และมีทัศนคติที่ดีต่อการติดตามผลการวิจัย
R = Result หมายถึง ผลการวิจัยที่ได้มาเป็นผลอย่างไรก็ตามจะต้องยอมรับผลการวิจัยนั้นอย่างดุษฎี และเป็นผลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าอย่างมีระบบ
C = Curiosity หมายถึง ผู้วิจัยจะต้องมีความรู้อยากรู้อยากเห็น มีความสนใจและขวนขวายในการวิจัยอยู่ตลอดเวลา
H = Horizon หมายถึงว่า เมื่อผลการวิจัยปรากฏออกมาแล้วย่อมทำให้ทราบและเข้าใจในปัญหาเหล่านั้นได้เหมือนกับการเกิดแสงสว่างขึ้น แต่ถ้ายังไม่เกิดแสงสว่าง ผู้วิจัยจะต้องดำเนินต่อไป จนกว่าจะพบแสงสว่าง ในทางสังคมแสงสว่างหมายถึง ผลการวิจัยก่อให้เกิดสุขแก่สังคม (อารมณ์ สนานภู่ : 2545.)