09 มกราคม 2551

กฏการเติม ing หลังคำกริยา

1. เติม ing ท้ายกริยาช่องที่ 1 ( หรือรูป infinitive ) ได้ทันทีสำหรับคำกริยาโดยทั่วๆไป เช่น looking
2. คำพยางค์เดียว มีสระ ( vowel ) ตัวเดียว ออกเสียงสั้น และลงท้ายด้วยพยัญชนะตัวเดียว (consonant) ต้องเพิ่มพยัญชนะตัวท้ายเข้าอีกหนึ่งตัว แล้วจึงเติม ing เช่น
run - running วิ่ง put - putting วาง
3. คำสองพยางค์ ซึ่งลงเสียงหนัก ( stress ) ที่พยางค์ท้าย มีสระพยางค์ท้ายเพียงตัวเดียว และลงท้ายด้วยพยัญชนะตัวเดียว ต้องเพิ่มพยัญชนะตัวท้ายนั้นเข้าไปอีกหนึ่งตัว แล้วจึงเติม ing เช่น
begin - beginning เริ่ม
4. กริยาที่ลงท้ายด้วย e (กรณีไม่ออกเสียงตัว e ) ให้ตัด e ทิ้งเสียก่อน แล้วจึงเติม ing เช่น
write - writing เขียน move - moving เคลื่อน
5. กริยาที่ลงท้ายด้วย ee ให้เติม ing ได้เลย ไม่ต้องมีการตัดอะไรทิ้ง เช่น
see - seeing เห็น agree - agreeing เห็นด้วย
6. กริยาที่ลงท้ายด้วย ie ให้เปลี่ยน ie เป็น y เสียก่อนแล้วจึงเติม ing เช่น
die - dying ตาย lie - lying โกหก ยกเว้น ski - skiing เล่นสกี

3 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

Hello. This post is likeable, and your blog is very interesting, congratulations :-). I will add in my blogroll =). If possible gives a last there on my site, it is about the CresceNet, I hope you enjoy. The address is http://www.provedorcrescenet.com . A hug.

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

แล้ว การเติม ing ของคำจำพวก Gerund ใช้กฏเดียวกันไหมคร้าบบบบบบบบบบ
กรุณาตอบมาด้วยครับ งง??????????????????????????

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อยากให้เเนะนำเรื่องการเปรียบเทียบ superlative and comparative ซึ่งกำลังเรียนอยู่ ของ ม.2ช่วยอธิบายเพิ่มขึ้นหน่อยน่ะค่ะ...

Last lecture อยากสอนอะไรในเล็คเชอร์สุดท้าย (ก่อนเสียชีวิต)

ศ. แรนดี้ เพาช์ ศาตราจารย์ด้าน Computer Science บรรยายที่มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon สหรัฐอเมริกา หลังจากที่ทราบว่าเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย

song

http://www.youtube.com/watch?v=7vY1peG8gHQ

Examination:pre-test,post-test แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน

นักเรียนช่วงชั้นที่ 3 ทุกคนต้องใส่รหัสเพื่อเปิดข้อสอบแต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกันและcrop คะแนนที่ได้ส่งทาง e-mail แล้ว printมาส่งด้วยครับ ที่อยู่ข้อสอบ คลิกที่นี่สำหรับโหลด

Manager Online - ต่างประเทศ

Read,please. อ่าน รบกวน กรอกแสดงความคิดเห็น หลังได้รูปภาพ งาน การบ้าน

  • เพราะเมื่อท่านได้รับข้อมูลจะลบครับ
  • วิธีการ แสดงความเห็นครับ
  • 1.คลิก แสดงความเห็น
  • 2.พบกรอบ กรอกข้อความที่ต้องการ
  • 3.คลิก ชื่อเล่น แต่กรุณาใสชื่อจริงครับ นามสกุลไส่หรือไม่ก็ได้
  • 5.คลิก เผยแพร่บทความ
  • 4.รอขีด แสดงจนแล้วเสร็จ ครับ

ปรัชญาการวิจัย

คเวสนา ปรมา วิชชา
การวิจัยนำมาซึ่งยอดแห่งความรู้
RESEARCH LEADS TO SUMMIT OF KNOWLEDGE
การวิจัยตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า Research เกิดจากคำ 2 คำมารวมกัน คือคำว่า RE+SEARCH จากรากศัพท์เดิมว่า การค้นหาซ้ำแล้วซ้ำอีกให้เกิดความมั่นใจ นอกจากนี้นักจิตวิทยาด้านการวิจัย ออกแบบแนวคิดอธิบายค่า “Research” โดยแยกเป็นอักษรที่มาจากความหมายจากที่ประชุม Pan Pacific Socience Congress ในปี ค.ศ. 1961 ณ. สหรัฐอเมริกา ได้แยกอธิบายความหมายไว้ดังนี้
R = ecruitment & Relationship หมายถึง การฝึกตนให้มีความรู้ รวมทั้งรวบรวมผู้ที่มีความรู้เพื่อปฏิบัติงานรวมกัน ติดต่อสัมพันธ์และประสานงานกัน
E = Education & Efficency หมายถึง ผู้วิจัยจะต้องมีการศึกษา มีความรู้และสมรรถภาพสูงในการวิจัย
S = Sciences & Stimulation หมายถึง เป็นศาสตร์ที่ต้องมีการพิสูจน์ค้นคว้า เพื่อหาความจริง และผู้วิจัยต้องมีความกระตุ้นในด้านความคิดริเริ่ม กระตือรือร้นที่จะทำวิจัย
E = Evaluation & Enviroment หมายถึง รู้จักประเมินผลว่ามีประโยชน์สมควรจะทำต่อไปหรือไม่ และต้องรู้จักใช้เครื่องมือต่างๆในการวิจัย
A = Aim & Attitude หมายถึง มีจุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายที่แน่นอน และมีทัศนคติที่ดีต่อการติดตามผลการวิจัย
R = Result หมายถึง ผลการวิจัยที่ได้มาเป็นผลอย่างไรก็ตามจะต้องยอมรับผลการวิจัยนั้นอย่างดุษฎี และเป็นผลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าอย่างมีระบบ
C = Curiosity หมายถึง ผู้วิจัยจะต้องมีความรู้อยากรู้อยากเห็น มีความสนใจและขวนขวายในการวิจัยอยู่ตลอดเวลา
H = Horizon หมายถึงว่า เมื่อผลการวิจัยปรากฏออกมาแล้วย่อมทำให้ทราบและเข้าใจในปัญหาเหล่านั้นได้เหมือนกับการเกิดแสงสว่างขึ้น แต่ถ้ายังไม่เกิดแสงสว่าง ผู้วิจัยจะต้องดำเนินต่อไป จนกว่าจะพบแสงสว่าง ในทางสังคมแสงสว่างหมายถึง ผลการวิจัยก่อให้เกิดสุขแก่สังคม (อารมณ์ สนานภู่ : 2545.)