07 มกราคม 2551

Present Perfect

ประธาน + have, has + กริยาช่องที่ 3
วิธีใช้ ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน อดีต ดำเนินมาถึงใน ปัจจุบัน ในขณะที่พูด และคาดว่าจะดำเนินต่อไปถึง อนาคต (เราจะเห็นว่า Tense นี้ จะรวมถึง 3 Tense ด้วยกัน) โดยจะมีคำว่า since และ for ในประโยคด้วย
since แปลว่า ตั้งแต่ ซึ่งเป็นจุดหนึ่งของเวลาในอดีต
since I was born = ตั้งแต่ฉันเกิด
since 1987 = ตั้งแต่ 1987
since yesterday = ตั้งแต่เมื่อวานนี้
since this morning = ตั้งแต่เช้านี้
since 4 o'clock = ตั้งแต่ 4 นาฬิกา

7 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

บอก tense อื่นบ้างสิค่ะ จะได้ได้ความรู้เยอะๆ จริงไหมเพื่อนๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อยากทราบว่าทำมัยเด็กไทยจึงท่อง TENSE มั่ยด้าย ช่วยตอบด้วยนะคะ (nong.luk.nam@hotmail.com)

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อยากบอกว่าเด็กโคกสั้นเก่งเรื่องTENSEมากตั้งแต่มีครูทรงชัยมาสอนนี่ละคะ ครูยอดมากเลย (เก่งที่สุด) ว้าวววววววว เจ๋ง!เป๋ง!

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

สวัสดีคะเพื่อนๆชาวโลกอินเตอร์เน็ตทุกคน วันนี้เราจะเสนอเรื่องส่วนตัวในการเรียนเรื่อง TENSE แต่ก่อน
เรามั่ยเคยรู้เรื่อง TENSE เลยก้อตั้งแต่ด้ายเรียนกับอาจารย์ทรงชัย เราก้อมีความรู้มากขึ้น อยากบอกเพื่อนทุกคนว่า จงตั้งจัยเรียนพยามที่จะเข้าใจ(เราเชื่อว่าทุกคนมีพรแสวง)รักทุกคนนะจู๊บๆๆๆๆๆๆๆๆบ๊ายบาย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

tense คือเรื่องที่เราเข้าใจม๊ากมาก เราจึงยกย่องครูผู้สอนวั้ยเหนือหัว บ๊ายบาบ (โขนทีม)!

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เด็กไทยสมัยนี้ มีความรู้น้อย และเป็นคนไม่มีสมาธิหรือก็คือเป็นคนสมาธิสั้น และก็ยังเป็นวัยรุ่นใจร้อนไม่รู้จักถึงความเคารพ อีกด้วยคร๊าบ ?

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ดีใจที่มาได้ดู

Last lecture อยากสอนอะไรในเล็คเชอร์สุดท้าย (ก่อนเสียชีวิต)

ศ. แรนดี้ เพาช์ ศาตราจารย์ด้าน Computer Science บรรยายที่มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon สหรัฐอเมริกา หลังจากที่ทราบว่าเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย

song

http://www.youtube.com/watch?v=7vY1peG8gHQ

Examination:pre-test,post-test แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน

นักเรียนช่วงชั้นที่ 3 ทุกคนต้องใส่รหัสเพื่อเปิดข้อสอบแต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกันและcrop คะแนนที่ได้ส่งทาง e-mail แล้ว printมาส่งด้วยครับ ที่อยู่ข้อสอบ คลิกที่นี่สำหรับโหลด

Manager Online - ต่างประเทศ

Read,please. อ่าน รบกวน กรอกแสดงความคิดเห็น หลังได้รูปภาพ งาน การบ้าน

  • เพราะเมื่อท่านได้รับข้อมูลจะลบครับ
  • วิธีการ แสดงความเห็นครับ
  • 1.คลิก แสดงความเห็น
  • 2.พบกรอบ กรอกข้อความที่ต้องการ
  • 3.คลิก ชื่อเล่น แต่กรุณาใสชื่อจริงครับ นามสกุลไส่หรือไม่ก็ได้
  • 5.คลิก เผยแพร่บทความ
  • 4.รอขีด แสดงจนแล้วเสร็จ ครับ

ปรัชญาการวิจัย

คเวสนา ปรมา วิชชา
การวิจัยนำมาซึ่งยอดแห่งความรู้
RESEARCH LEADS TO SUMMIT OF KNOWLEDGE
การวิจัยตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า Research เกิดจากคำ 2 คำมารวมกัน คือคำว่า RE+SEARCH จากรากศัพท์เดิมว่า การค้นหาซ้ำแล้วซ้ำอีกให้เกิดความมั่นใจ นอกจากนี้นักจิตวิทยาด้านการวิจัย ออกแบบแนวคิดอธิบายค่า “Research” โดยแยกเป็นอักษรที่มาจากความหมายจากที่ประชุม Pan Pacific Socience Congress ในปี ค.ศ. 1961 ณ. สหรัฐอเมริกา ได้แยกอธิบายความหมายไว้ดังนี้
R = ecruitment & Relationship หมายถึง การฝึกตนให้มีความรู้ รวมทั้งรวบรวมผู้ที่มีความรู้เพื่อปฏิบัติงานรวมกัน ติดต่อสัมพันธ์และประสานงานกัน
E = Education & Efficency หมายถึง ผู้วิจัยจะต้องมีการศึกษา มีความรู้และสมรรถภาพสูงในการวิจัย
S = Sciences & Stimulation หมายถึง เป็นศาสตร์ที่ต้องมีการพิสูจน์ค้นคว้า เพื่อหาความจริง และผู้วิจัยต้องมีความกระตุ้นในด้านความคิดริเริ่ม กระตือรือร้นที่จะทำวิจัย
E = Evaluation & Enviroment หมายถึง รู้จักประเมินผลว่ามีประโยชน์สมควรจะทำต่อไปหรือไม่ และต้องรู้จักใช้เครื่องมือต่างๆในการวิจัย
A = Aim & Attitude หมายถึง มีจุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายที่แน่นอน และมีทัศนคติที่ดีต่อการติดตามผลการวิจัย
R = Result หมายถึง ผลการวิจัยที่ได้มาเป็นผลอย่างไรก็ตามจะต้องยอมรับผลการวิจัยนั้นอย่างดุษฎี และเป็นผลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าอย่างมีระบบ
C = Curiosity หมายถึง ผู้วิจัยจะต้องมีความรู้อยากรู้อยากเห็น มีความสนใจและขวนขวายในการวิจัยอยู่ตลอดเวลา
H = Horizon หมายถึงว่า เมื่อผลการวิจัยปรากฏออกมาแล้วย่อมทำให้ทราบและเข้าใจในปัญหาเหล่านั้นได้เหมือนกับการเกิดแสงสว่างขึ้น แต่ถ้ายังไม่เกิดแสงสว่าง ผู้วิจัยจะต้องดำเนินต่อไป จนกว่าจะพบแสงสว่าง ในทางสังคมแสงสว่างหมายถึง ผลการวิจัยก่อให้เกิดสุขแก่สังคม (อารมณ์ สนานภู่ : 2545.)